วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

สังเกตการสวอน วิดีโอ.wmv



วิดีโอสังเกต การสอน โรงเรียนวัดเวฬุราชิน
โดย น.ส.คณาภรณ์  จริศักดิ์   5281123058




วิสัยทัศน์ของโรงเรียน ภายในปี 2554 โรงเรียนวัดเวฬุราชิณจัดการศึกษาได้มาตราฐานก้าวทันเทคโนโลยีนักเรียนมีคุณภาพอยู่ในสังคม อย่างมีความสุขโดยประสานชุมชนและใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เหมาะสมโดยยึดหลัก วินัยนำ คุณธรรมเด่น เน้นวิชาการ ประสานชุมชน

ประวัติ
ประวัติโรงเรียนวัดเวฬุราชิณ โรงเรียนวัดเวฬุราชิณ สำนักงานเขตธนบุรี กรุงเทพมหานครตั้งอยู่ในที่ดินของวัด
เวฬุราชิณ เนื้อที่ 1 ไร่ 55 ตารางวา (1820 ตารางเมตร)
ที่ตั้ง 154/1 ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
โทร.02 - 4660584
แผนที่การเดินทาง
แผนที่เดินทาง
ความเป็นมา

ปิดทำการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2474 ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4
โดยใช้ศาลาการเปรียญของวัดเวฬุราชิณ เดิมเป็นโรงเรียนประชาบาล
สังกัดกรมสามัญศึกษา ชื่อโรงเรียน ประชาบาล วัดใหม่ท้องคุ้ง ต่อมามีผู้สร้าง
อาคารเรียนให้ และโอนมาสังกัดเทศบาลนครธนบุรี เมื่อ พ.ศ.2480 มีชื่อว่า
โรงเรียนเทศบาล 11(ภารกิจวิทยา) และได้มีการโอนกลับไปกลับมา
ระหว่างกรมสามัญศึกษากับเทศบาลนครธนบุรี จนปี พ.ศ.2491จึงได้โอนขาดมา
ขึ้นกับเทศบาลนครธนบุรี และได้ชื่อใหม่ว่าโรงเรียนวัดเวฬุราชิณ และต่อมา
เทศบาลนครกรุงเทพมหานคร และเทศบาลนครธนบุรีได้ยุบรวมกันเป็นเทศบาล
กรุงเทพ-ธนบุรี และเปลี่ยนเป็นเทศบาลนครหลวง จนปี พ.ศ. 2515 เปลี่ยนเป็น
กรุงเทพมหานคร จึงได้ตัดชื่อ "เทศบาล" ออกเหลือชื่อ โรงเรียน วัดเวฬุราชิณ
สังกัดสำนักงานเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้น
อนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ประวัติสิ่งปลูกสร้างในอดีีต
9 พฤษภาคม 2476
ใช้ศาลาการเปรียญของวัดใหม่ท้องคุ้ง (เวฬุราชิณ)
20 พฤศจิกายน 2479
มีผู้มีจิตศรัทธาสร้างอาคารไม้ 2 ชั้น 4 ห้องเรียน ชื่ออาคารภารกิจวิทยา ต่อมาถูกรื้อสร้าง
อาคาร 1 เมื่อ พ.ศ. 2518
พ.ศ. 2508 เทศบาลนครธนบุรี สร้างอารไม้ชั้นเดียว ขนาด 8 X 29 ม. มี 6 ห้องเรียน ต่อมาถูกรื้อ สร้าง
อาคาร 2 เมื่อ พ.ศ. 2515
พ.ศ. 2509 เทศบาลนครธนบุรี ได้สร้างอาคารแบบ 004 อาคารไม้ 2 ชั้น ขนาด 6X 33 ม. ม 8 ห้องเรียน ต่อมาถูกรื้อ สร้างอาคาร 3 เมื่อ พ.ศ. 2533
ประวัติสิ่งปลูกสร้างในปัจจุบัน

พ.ศ. 2515 สร้างตึก 3 ชั้น 12ห้องเรียน แทนอาคารไม้ชั้นเดียว คืออาคาร 2 ในปัจจุบัน
พ.ศ. 2518 สร้างตึก 3 ชั้น 6 ห้องเรียน แทนอาคารภารกิจวิทยา คืออาคาร 1 ในปัจจุบัน
พ.ศ. 2520 สร้างรั้วอิฐบล๊อครอบริเวณโรงเรียน
พ.ศ. 2525 สร้างที่ดื่มน้ำนักเรียน 2 จุด จำนวน 12 ก๊อก ด้านข้างอาคาร 2 และอาคาร 3
พ.ศ. 2532 สร้างอาคารเอนกประสงค์ แบบ ศอ. 142 เป็นตึก 2 ชั้น ปัจจุบันชั้นล่างเป็นห้องเรียนปฐมวัย 2 และ
ห้องห้องนาฏศิลป ชั้นบนจัดเป็นห้องประชุม และห้องพัสดุ
พ.ศ. 2532 สร้างอาคารเอนกประสงค์ แบบ ศอ.231 เป็นตึก 3 ชั้น หลังอาคาร 1 ปัจจุบันชั้นล่างใช้เป็นโรงครัว ห้องพัสดุ และเป็นบ้านพักภารโรง ชั้น 2-3 เป็นที่รับประทานอาหารของนักเรียน ใช้งบประมาณราคา
3,157,000 บาท (ราคารวมอาคารเอนกประสงค์ 2 ด้วย)
พ.ศ. 2536 สร้างอาคารเรียนแบบ สนศ.265 แทนที่อาคาร 004 ตึก 4 ชั้น 12 ห้องเรียน ชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง ใช
เป็นห้องประชุม คืออาคาร 3 ในปัจจุบัน ใช้งบประมาณราคา 7,040,000 บาท
พ.ศ. 2543 สร้างส้วมนักเรียน และบ้านพักภารโรง หลังอาคารเอนกประสงค์ ชั้นบนเป็นบ้านพักภารโรง 2 ห้องชั้น
ล่างจัดเป็นส้วมนักเรียน ชาย - หญิง 10 ห้อง พร้อมที่ปัสสาวะ ใช้งบประมาณราคา 789,271 บาท
พ.ศ. 2549 ติดตั้งประตูสแตนเลสบานเลื่อน ขนาด 4.20 ม. X 1.75 ม.+ 45 ม. พร้อใลโก้โรงเรียน เป็นอัลลอยด์
2 หน้า คณะครูบริจาคเป็นเงิน 65,000 บาท
รายชื่อผู้บริหารในอดีต

ลำดับที่
ปี พ.ศ.
ชื่อผู้บริหารโรงเรียน
ตำแหน่ง
1
2476 - 2478 begin_of_the_skype_highlighting 2476 - 2478 end_of_the_skype_highlighting
นายพิมพ์ คงชนะ
ครูใหญ่
2
2478 - 2483 begin_of_the_skype_highlighting 2478 - 2483 end_of_the_skype_highlighting
นายผลัด ลำใย
ครูใหญ่
3
2483 - 2485 begin_of_the_skype_highlighting 2483 - 2485 end_of_the_skype_highlighting
นายจรูญ ภมรผล
ครูใหญ่
4
2485 - 2486 begin_of_the_skype_highlighting 2485 - 2486 end_of_the_skype_highlighting
นายมาลี อิงคะะวณิชย์
ครูใหญ่
5
2486 - 2493 begin_of_the_skype_highlighting 2486 - 2493 end_of_the_skype_highlighting
นายสิน ศรี บุญแสน
ครูใหญ่
6
2493 - 2494 begin_of_the_skype_highlighting 2493 - 2494 end_of_the_skype_highlighting
นายนิพนธ์ สุดลาภา
ครูใหญ่
7
2494 - 2496 begin_of_the_skype_highlighting 2494 - 2496 end_of_the_skype_highlighting
นายธนิต ขุนวิเศษ
ครูใหญ่
8
2496 - 2503 begin_of_the_skype_highlighting 2496 - 2503 end_of_the_skype_highlighting
นายฉ่ำ ปานวีระ
ครูใหญ่
9
2503 - 2505 begin_of_the_skype_highlighting 2503 - 2505 end_of_the_skype_highlighting
นายสุพจน ์ ล.วีระวงค์
ครูใหญ่
10
2505 - 2512 begin_of_the_skype_highlighting 2505 - 2512 end_of_the_skype_highlighting
นายชลอ พูลดี
ครูใหญ่
11
2512 - 2539 begin_of_the_skype_highlighting 2512 - 2539 end_of_the_skype_highlighting
นายทิพย์วัลย์ ประทีปผล
อาจารย์ใหญ๋
12
2529 - 2535 begin_of_the_skype_highlighting 2529 - 2535 end_of_the_skype_highlighting
นางจีรวัณณ์ นิโรจน์
ผู้อำนวยการ
13
2535 - 2537 begin_of_the_skype_highlighting 2535 - 2537 end_of_the_skype_highlighting
นายวิชิณ สุกปลั่ง
ผู้อำนวยการ
14
2537 - 2543 begin_of_the_skype_highlighting 2537 - 2543 end_of_the_skype_highlighting
นางสุภาณี ศิริจำรัส
ผู้อำนวยการ
15
2543 - 2544 begin_of_the_skype_highlighting 2543 - 2544 end_of_the_skype_highlighting
นางสมรวดี อินทะกนก
ผู้อำนวยการ
16
2544 - 2547 begin_of_the_skype_highlighting 2544 - 2547 end_of_the_skype_highlighting
น.ส.นลินี ภาติกะวัยวัฒน์
ผู้อำนวยการ
17
2547 - 2550 begin_of_the_skype_highlighting 2547 - 2550 end_of_the_skype_highlighting
นายวิจิตร สุขช่วย
ผู้อำนวยการ
18
2550-ปัจจุบัน
นายจรูญ รอดเจริญ
ผู้อำนวยการ
ชำนาญการพิเศ
อักษรย่อ
ก.ธร.วฬ
ปรัชญาของโรงเรียน "การศึกษาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต"


วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Past Simple Tense

 

 

Past Simple Tense



หลักการใช้ Past Simple Tense
1.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและเสร็จสิ้นไปแล้ว
คำบอกเวลาได้แก่ ago, yesterday, last ...... ( year, week, month .......)
เช่น My sister had a party yesterday.
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่กระทำอยู่เป็นประจำในอดีต แต่ปัจจุบันไม่ได้กระทำแล้ว เช่น
Tracy always played tennis when she was young.
หลักการทำประโยคคำถามในรูป Past Simple Tense
1. ถ้าในประโยคมีกริยาช่วยให้นำกริยาช่วยมาวางไว้หน้าประโยคแล้วใส่ ?
( Question mark ) เช่น He was in a bathroom 5 minutes ago.
Was he in a bathroom 5 minutes ago ?
2. ถ้าในประโยคไม่มีกริยาช่วยให้นำ Did มาช่วย โดยนำ Did มาวางไว้หน้า
ประโยค ตามด้วยประธานและกริยาช่อง 1 ท้ายประโยคใส่ ? ( Question mark)
Rose lived with her parents
Did Rose live with her parents?
หลักการทำประโยคปฏิเสธในรูป Past Simple Tense
1. ถ้าในประโยคมีกริยาช่วยให้ใส่ not หลังกริยาช่วยนั้น
เช่น She had a new car.
She had not a new car.
2. ถ้าในประโยคไม่มีกริยาช่วยให้นำ did มาช่วยโดยใส่
not หลัง did แล้วตามด้วยกริยาช่อง1
เช่น He danced yesterday.
He did not ( didn't ) dance yesterday.
หลักการเติม -ed
1. กริยาที่ลงท้าย e ให้เติม d ได้เลย เช่น
live - lived
change - changed
2. กริยาที่ลงท้ายด้วย y เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม ed เช่น
cry - cried
carry - carried
ยกเว้น หน้า y เป็นสระให้เติม ed ได้เลย เช่น
play - played
3. กริยาที่มีพยางค์เดียวมีสระตัวเดียวและเป็นสระเสียงสั้น
ตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะท้ายแล้วเติม ed
hop - hopped
occur - occured
4. กริยาที่เป็น Irregular Verb ให้เปลี่ยนรูป เช่น
run - ran
drink - drank
แบบฝึกหัด
  1. They ____________________ it was interesting.
      a.    though
      b.   thought
      c.    thinked
      d.    thank

     2. Where did you buy that bracelet?
          I __________________ it at Nordstrom's.
     a.  buyed
     b.  bawt
     c.  bought
     d.  buied

     3. What did he say?
          He just ____________________ "Hi."
     a.  said
     b.  sayed
     c.  sought
     d.  saed

     4.Where did you read that article?
         I __________________ it in the newspaper.
         a.  read
         b.  red
         c  readed
         d.  raided

      5.How many gifts did she choose?
         She _____________________ 10 gifts
        a.  choosed
        b.  chosed
        c.  chought
        d.  chose

      6.How high did the water rise during the 1962 floods?
         It _____________________ about 10 feet.
         a. rise
         b.  rised
         c.  rase
         d.  rose

     7.How long did the soldier stand at attention?
        He _______________________ at attention for an hour.
        a.  stand
        b.  standed
        c.  stode
        d.  stood

      8.How did he break that lamp?
         He __________________ it by accidentally knocking it over with his elbow.
      a. broke
      b. brake
      c. broked
      d. breaked

เฉลย
1.b
2.c
3.a
4.a
5.d
6.d
7.d
8.a

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ประวัติอซิริส (Osiris) เทพแห่งสันติ

อซิริส (Osiris) เทพแห่งสันติ         

  

           ชื่อนี้คือชื่อเทพรุ่นแรกสุดของอียิปต์ เป็นเทพที่ได้ชื่อว่ารังเกียจความรุนแรงจับใจที่สุดองค์หนึ่ง ความรังเกียจเช่นนี้กลายเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจจริงๆ ไม่ช้าไม่นานเมื่อท้าวเธอต้องกลายมาเป็นเทพผู้ปกครองอียิปต์พระองค์พบว่าประชากรอันมากมายของพระองค์เวลานั้นเป็นพวกป่าเถื่อนแบบบริสุทธิ์จริงๆ ทั้งไม่สามรถคิดอ่านอะไรเองได้เนื่องจากความไม่รู้ และยังไร้ศีลธรรมอีกด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โอซิริสก็ยังสามรถโน้มน้าวบรรดาประชาชนเหล่านั้นให้มาเชื่อฟังกฎระเบียบของพระองค์ได้ เชื่อไหมว่าพระองค์สอนด้วยวิธีสันติเพียงอย่างเดียวให้รู้ถึงการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ตั้งสังคมขึ้น และบริหารสังคมนั้นด้วยวินัยและศีลธรรม โอซิริสสอนให้มีการเพาะปลูกทั่วไป สอนให้ทำขนมปังเป็นอาหาร แถมยังสอนให้หมักไวน์และเบียร์เพื่อความสนุกสนานอีกซะด้วย
          โอซิริสสร้างบ้านแปลงเมือง สร้างวัดวาอารามและมีการสร้างเทวรูปไว้บูชาเป้นรูปแรก พระองค์สร้างดนตรีไว้เพื่อความเพลิดเพลินและการบูชาภายใต้การปกครองของโอซิริสและมเหสีคือ ไอซิส (Isis) อียิปต์กลายเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในโลกโบราณเชียวล่ะ แล้วตอนนั้นเองที่โอซิริสตั้งใจว่าจะเผยแพร่อารยธรรมของพระองค์ไปทั่วโลก


       แต่เนื่องจากเป็นคนที่เกลียดความรุนแรง ในการเผยแพร่อารยธรรมในครั้งนี้โอซิริสจึงไม่ได้ใช้กำลังทางทหารเลย พระองค์ใช้เวทมนตร์ของดนตรีและบทเพลงของพระองค์เท่านั้น แต่ว่าชาติแล้วชาติเล่าก็ต้อนรับอารยธรรมที่พระองค์นำไปให้ ท้ายที่สุดเมื่อโอซิริสกลับถึงบ้านพระองค์ก็ได้เผยแพร่ความเจริญให้กับส่วนอื่นๆ ของโลกจนครบ


       ส่วนในอียิปต์ตอนที่โอซิริสไม่อยู่ ราชินีไอซิสก็ได้สานต่องานของพระสวามีด้วยการสอนผู้หญิงอียิปต์ในงานปั่นด้ายและทอผ้า สอนให้ผู้ชายรักษาคนป่วย ไอซิสคิดค้นการแต่งงาน ซึ่งทำให้ผู้หญิงและชายจะแบ่งปันความสุขและแรงงานระหว่างกัน ภายใต้การปกคองที่รุ่งเรืองของโอซิริสและไอซิสโลกของเราน่าจะมีสนติสุขจริงๆ แต่นั่นจะต้องไม่มีเซท (Set) น้องชายทรยศของโอซิริสเองซึ่งเป็นผู้ทำให้ยุคทองนี้ล่มสลายลง


       ด้วยนิสัยของมนุษย์เรานี่ละ ใช่ว่าจะมีคนแบบเดียวกันทั้งโลก ดังนั้นพวกที่มีจิตคิดอิจฉาริษยาจึงเข้าพวกกับเซทกันมากเหมือนกัน และพวกที่ร้ายๆ แบบนี้ก็พากันหาอุบายมาฆ่าโอซิริสจนสำเร็จ จักการเอาพระศพยัดลงโลง แล้วเอาไปถ่วงในแม่น้ำไนล์ แต่ว่าโลงพระศพกลับล่องลอบออกไปทางปากแม่น้ำสู่ทะเลจนไปเกยฝั่งที่ฟีเนียเซีย ราชินีไอซิสผู้โศกเศร้าได้พยายามติดตามหาพระศพของพระสวามีจนมาพบและได้ช่วยชุบชีวิตของพระองค์ขึ้นมาใหม่


      ความผิดพลาดของการที่พระองค์ไม่ปรารถนาที่จะใช้กำลังรุนแรงนนี่ละทำให้พระองค์พลาดอีกครั้งอย่างจังเบอร์เลย เมื่อพระองค์ไม่ลงทัณฑ์เซท กลับปล่อยเอาไว้ให้เป็นเสี้ยนหนามในที่สุดไม่ช้าไม่นานเซทก็วางแผนฆ่าพระองค์อีกจนได้ คราวนี้สับพระศพแยกออกเป็นส่วนๆ ถึงสิบสี่ชิ้น กะไม่มีการชุบชีวิตขึ้นได้อีกครั้งโดยเด็ดขาด แล้วเอาชิ้นส่วนเหล่านี้ไปโปรยทั่วอียิปต์ ร้อนถึงไอซิสผู้โชคร้ายต้องติดตามชิ้นส่วนของพระสวามีตามที่ต่างๆ นำมาประกอบเป็นรูปร่าง และคิดค้นเทคนิคการดองศพเพื่อชุบโอซิริสขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง


  แต่ว่าคราวนี้พระองค์กลับได้รับการเลือกให้เป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งความตายนิรันดร์ เป็นที่ซึ่งพระองค์จะไม่คืนมาสู่อียิปต์ในรูปของมนุษย์อีกต่อไป อียิปต์ในความดูแลของพระองค์เหลือเพียงเรื่องของการอำนวยผลแห่งความอุดมของดินและสายน้ำที่เป็นแหล่งก่อกำเนิดชีวิตของแม่น้ำไนล์ แล้วเซทผู้ริษยาล่ะ หลังจากที่ฆ่าพี่ชายตายจนโอซิริสกลายเป็นเทพแห่งอาณาจักรในความมืดเซทยังไม่ลดละความริษยาลงเลย ยังคงตามจองล้างด้วยการนำเอาความแห้งแล้ง และพายุทรายมารบกวนอียิปต์อยู่เนืองๆ


 ส่วนไอซิสราชินีหม้าย ซึ่งแสนจะโสกเศร้ากับการจากไปของพระสวามีก็มีชะตากรรมสุดท้ายที่ไร้ความสุข เมื่อโอรสของพระองค์กับโอซิริสคือ โฮรัส (Horus) ต้องการจะแก้แค้นเซท พระนางทรงห้ามด้วยไม่ต้องกานให้เกิดความรุนแรงขึ้นตามนโยบายของพระสวามี แต่คราวนี้โฮรัสเกิดบันดาลโทสะฟาดดาบตัดศีรษะพระมารดาสิ้นชีพ พระนางไอซิสหลังจากสิ้นชีพแล้วก็กลายเป็นเทวีที่ช่วยให้คนตายได้ไปพบกับโอซิริส ฉะนั้นคนดีที่กำลังจะตายเห็นจะไม่ต้องกลัวอะไร เพราะเทพและเทวีคู่นี้จะเป็นผู้นำทางเขาไปนิรันดร์กาล…


อ้างอิงมาจาก www.dek-d.com